วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ธารน้ำมายา….โดนใจอย่างมีสไตล์


ลำธารสายมายา

ความประทับใจที่ถูกบันทึกไว้ในช่วงเวลาเดินทางสู่ประเทศอิตาลีตอนใต้ คือ การได้มุ่งไปเยี่ยมชมสวนพรรณไม้เขตร้อนที่สวยที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดของประเทศอิตาลีบนเกาะอีสเคีย (Ischia) 

อิสเคีย เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านสปาและน้ำพุร้อนมาก เพราะที่นี่เคยเป็นเกาะภูเขาไฟมาก่อน ปัจจุบันดับและนอนสงบไปซะแล้ว เกาะอิสเคียตั้งอยู่ระหว่างเกาะ Procida และเกาะ Capri ณ ที่แห่งนี้มีสถานที่แห่งหนึ่งที่คอต้นไม้ คนเลิฟต้นไม้จะต้องไปเยี่ยมชมให้ได้นั่นคือ  "La Mortella" (ลามอลเตลล่า)   

สวน La Motella

ลามอลเตลล่า เป็นสวนพฤษศาสตร์ส่วนตัวที่เก๋ไก๋๋ที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี  ผู้เป็นเจ้าของคือ เซอร์วิลเลี่ยม วอลตัน (Sir William Wal ton) นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชาวอังกฤษชื่อก้องโลก และท่านยังเป็นพระสหายสนิทของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรอีกด้วย 
ปัจจุบันท่านเซอร์วิลเลี่ยมเสียชีวิตไปแล้ว ท่านผู้หญิงซูซานน่า วอลตัน (Dame Susanna Walton) ผู้เป็นภรรยา ได้ดูแลสวนแห่งนี้ต่อไป

ที่นี่เปรียบเหมือนสวรรค์บนดินของเหล่าต้นไม้เพราะมีรางวัลการันตีว่าเป็นสวนทรอปิคอลที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดของอิตาลี โดยกวาดรางวัลดิดๆกันถึงสี่ปีซ้อน ผู้เขียนและคณะได้รับคำเชิญจากท่านผู้หญิงซูซานน่า ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ เป็นคอเดียวกันในเรื่องต้นไม้ 


จากซ้าย คุณโป้ง ท่านผู้หญิงซูซานนา ,ผู้เขียน
 
ทริปพิเศษของเราครั้งนี้จึงมีผู้นำทีมกิติมศักดิ์ คือ คุณเป๊ก (พิไลพรรณ สมบัติศิริ) บุตรสาวคนโตของท่านผู้หญิงเลอศํกดิ์ ซึ่งเป็นพี่สาวสุุดเลิฟของพวกเรานั่นเอง ถ้าใครได้มาเยือนอิตาลีตอนใต้และเป็นคนที่เลิฟต้นไม้ เลิฟสปาแบบชนิดคลั่ง!! (ไคล้)  ท่านคงจะต้องสละเวลาแวะมาที่นี่ให้ได้สักครั้ง
พันธ์ุไม้นานาพันธ์ุในสวนลามอลเตลล่าสามารถสร้างความตื่นตา ตื่นใจ ตื่นตะลึง! และสร้างความประทับใจแบบไม่มีวันลืมเลือน  



ชัยภูมิของสวนอยู่บนเนินเขาหินลูกเตี้ยๆ ซึ่งกินอาณาบริเวณไปจรดถึงริมผาด้านหนึ่งติดทะเล  ทุกอณูของพื้นที่ล้วนเขียวเขียวและเขียวแน่นเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นอยู่ในเขตร้อน ซึ่งมีบางชนิดเหมือนที่ปลูกอยู่ในสวนของบ้านผู้เขียนด้วย (อากาศที่นี่ร้อนและอ้าวตลอดทั้งปี ) ใบไม้จึงดูสดใสและเขียวจัดมากๆ มีพันธ์ไม้ที่หายากๆซึ่งถูกนำมาจากอีกมุมโลกอย่างต้นงิ้วดอกสีชมพูที่ส่งมาจากประเทศอาเจนติน่าหรือดอกบัวสีฟ้าครามงดงามจากอียิปต์เป็นต้น ทางด้านในสุดของสวนติดเชิงผามีอีกสิ่งที่สร้างความอึ้งบนทึ่ง!! ติดตาผู้เขียนมาจวบจนถึงทุกวันนี้ก็คือ "ลำธารสีน้ำเงิน ลาปิส"

"ลำธารสีน้ำเงิน ลาปิส"
  
ทุกสายตาจะต้องสะดุดกึ๊กและยืนอ้าปากค้้างกับผลงานสุดเปรี้ยวของศิลปินนักจัดสวนระดับเทพที่ได้ก่องานศิลป์ไว้ให้ที่นี่พร้อมกับหอบจินตนาการสุดบรรเจิดมาประดับให้สวนแห่งนี้เก๋แบบใครมาเห็นก็ต้องฮือ ก็คือ การนำเอาเศษของขวดเหล้าวอดก้า (ยี่ห้อ Sky Vodka) ชื่อกระฉ่อนโลกมานำเสนองาน
ศิลปินนักจัดสวนใช้เศษแก้วสีน้ำเงินลาปิส ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ นับแสนๆชิ้น ก่อนจากนั้นนำไปเจียเพื่อลบคมเหลี่ยมจนมนให้มีขนาดเท่าๆกันเหมือนเม็ดกรวดแล้วนำมาถมลงไปจนเกือบเต็มบ่อ เพื่อต้องการสื่อให้เข้าใจว่า ….เป็นสายลำธารสีน้ำเงินย่อมๆกลางสวนสีเขียวขจี
 
ขอบอกว่าธารสายพิศวงแห่งนี้ ช่างเปี่ยมเสน่ห์ และ์ชวนฝันมากๆ 

แต่ที่เด็ดดวงกว่านั้นอีกก็คือ ศิลปินได้คิดสรรค์งานเสริมส่งให้สายลำธารดูเจ๋งมากยิ่งกว่าเดิม โดยเขาได้นำเอาพันธ์ไม้ชนิดหนึ่งชื่อ ต้นซาเวียร์ ซากิตต้า (Savia sagittata)ไม้พันธ์ุเลื้อยุท้องถิ่นจากประเทศแมกซิโก ซึ่งมีดอกสีน้ำเงินเฉดเดียวเด๊ะกับเศษแก้วสกายว้อดก้ามาปลูกไว้รอบๆ 

ดอกซาเวียร์ ซากิตต้า (Savia sagittata)

เมื่อช่วงซัมเมอร์มาถึง มันจะเลื้อยแผ่คลุมลงมาบนเนินดินรอบลำธารทุก ๆ ด้าน แล้วเจ้าต้นซาเวียร์ ซากิตต้า ก็จะผลิตดอกสีน้ำเงินกลีบบางๆ ให้แบ่งบานแฉ่งอยู่รายรอบลำธาร ซึ่งถ้ามองมาจากระยะไกล จะดูเหมือนน้ำในลำธารกระเด็นกระดอนขึ้นมาเกาะกระจายอยู่รอบลำธาร เชื่อว่า ถ้าได้มาเห็นสักครั้งคงต้องร้องกรี้ดๆ (โอว์…ขอปรบมือให้สุดดังและยก นิ้วให้เลย 10 นิ้ว….คร๊าบ) 


แม้งานศิลป์ดังกล่าวจะมีสเกลไม่ใหญ่โตนัก  แต่ธรรมชาติรอบๆด้านช่วยดันให้งานดีไซน์นี้เกิดภาพอันแปลกตาและดูกลมกลืนไปกับแมกไม้ใบเขียวที่ร่มครึ้มอย่างไม่ขัดเขิน ถ้ามองดีๆ ราวกับสายน้ำจากทะเลในมหาสมุทรไหลมาโผล่ท่ามกลางผืนป่าสีเขียวมรกรต ความสุขท่ามกลางธรรมชาติกับงานดีไซน์ที่มีสไตล์ของ"ลำธารมายา" สร้างความเร้าใจได้จริงๆ ถ้่าได้มีโอกาสได้ไปเยือน ขอบอกง่ายๆว่า… “ ไม่ควรพลาด ”

คณะของเรา
 

เรื่องและภาพ  จักรพงษ์ วรรณชนะ
ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น